แนะนำตัว
ดิฉันนางสาวดนุภา คณาธีรกุล หรือเรียกสั้นๆว่า มินนี่ เกิดวันที่ 13 พฤจิกายน พ.ศ.2545 อายุ 17 ปี จบการศึกษามัธยมศึกษาตอนปลายจากโรงเรียนสตรีนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี และได้รับเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งประธานนักเรียนในปีการศึกษา 2562 ปัจจุบันเป็นศิลปินในค่าย YUPP Entertainment ในนาม “MILLI” หรือ “มิลลิ” โดยปล่อยซิงเกิ้ลไปทั้งหมดจำนวนสองเพลง เพลงแรกมีชื่อว่า ‘พักก่อน’ ซึ่งออกอากาศครั้งแรกเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563 และเพลงที่สองมีชื่อว่า ‘สุดปัง’ เพิ่งออกอากาศไปเมื่อวันที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2563
ทำไมถึงเลือกเรียนที่มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ
เหตุผลแรก เพราะดิฉันได้รับการสนับสนุนทุนการศึกษาจากมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ รวมถึงมหาวิทยาลัยแห่งนี้เป็นระบบการเรียนที่เป็นนานาชาติ ซึ่งทำให้สามารถพัฒนาตนเองได้ตามเป้าหมายในกรณีที่ต้องการฝึกภาษาหรือทำงานต่อเมืองนอก เอแบคเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศ ซึ่งเปิดระบบนานาชาติมาอย่างยาวนาน ทำให้การันตีได้ว่ามีคุณภาพแน่นอนและสบายใจเรื่องสังคมความเป็นอยู่ของมหาวิทยาลัย มีทัศนวิสัยสวยงาม และความปลอดภัยสูง
ทำไมถึงสนใจในคณะดนตรี
เพราะรู้สึกว่าอยากทำงานเกี่ยวกับดนตรีไม่ว่าจะเป็นเบื้องหน้าหรือเบื้องหลัง หรือทำทั้งสองอย่างไปพร้อมกัน และอีกอย่างคือคิดว่าดนตรีสามารถอยู่ในทุกองค์ประกอบของหลายสิ่งๆ เพราะถือว่าเป็นงานศิลปะชนิดหนึ่ง และงานศิลปะก็ต้องถูกปรับใช้ในทุกสิ่ง ไม่ว่าจะเกี่ยวกับธุรกิจบันเทิงหรือไม่ก็ตาม ดนตรีมักจะถูกนำไปใช้ในหลายๆ แบบ เป็นสื่อ เป็นงานศิลปะ หรือเป็นสิ่งบันเทิงก็ได้ และดนตรีเป็นสิ่งที่สื่อสารได้ตรงความรู้สึกมากๆ เข้าลึกถึงจิตใจคนได้เป็นอย่างดี และอีกส่ิงที่ชื่นชอบคือ บรรยากาศเวลาเล่นดนตรี รวมกับกลุ่มเพื่อนที่พูดภาษาเดียวกัน คุยเรื่องเดียวแล้วรู้สึกว่าเป็นบรรยากาศที่เท่มาก ในอนาคตคิดว่าจะเรียนต่อด้านดนตรีบำบัดซึ่งการเรียนดนตรีครั้งนี้จะเป็นประโยชน์อย่างมาก
ชอบวิชาไหนที่สุด
ชอบวิชา Piano jazz ที่เป็น private class เพราะเป็นวิชาที่ได้ใช้เวลากับตัวเองมาก เรียนรู้ในสิ่งที่เราชอบ และยังเป็นสิ่งที่เราสนใจเป็นพิเศษ เสน่ห์ของวิชานี้คือเปียโนแจ๊ส คือเป็นเครื่องดนตรีที่เป็นรากฐานในการทำดนตรีแนวอื่นๆ แม้จะเป็นวิชาที่ยากที่สุด แต่ดิฉันก็จะตั้งใจและจะทำให้ดีที่สุด วิชานี้เป็นการสร้างพื้นฐานที่ดีในการนำไปต่อยอดวิชาที่อยากเรียนต่อด้านดนตรีบำบัด และทำเพลงที่หลากหลายมากขึ้น แปลกใหม่มากขึ้น อีกทั้งอาจารย์ผู้สอน สอนได้ดีมาก ทำให้เราที่ไม่มีพื้นฐานด้านดนตรีเลย สามารถเข้าใจได้ง่าย อธิบายทุกขั้นตอนได้ดี และอาจารย์สามารถอธิบายไปถึงวิชาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องได้เป็นอย่างดี
วางแผนการทำงานและเรียนตลอดสี่ปีอย่างไร
คิดว่าจะเรียนและทำงานควบคู่กันไปด้วย และพยายามจัดสรรเวลาให้ดีที่สุด ขอความช่วยเหลือจากเพื่อนและอาจารย์ วางแผนว่าเรื่องการเรียนต้องเป็นหลัก เพราะยังเป็นสิ่งที่สนใจเป็นอันดับแรกที่สามารถนำมาปรับใช้กับการเป็นศิลปินที่ต้องทำเพลงเอง แต่งเนื้อเพลงเอง อยากเป็นคนที่สามารถทำได้ทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลังได้ด้วยตัวเอง แต่ก็จะไม่ทิ้งการทำงาน เพราะคิดว่าการทำงานในวงการก็ให้ประสบการณ์ในด้านธุรกิจบันเทิงได้เป็นอย่างดีจากการที่ได้ลงมือทำในการเป็นศิลปิน และเรียนรู้ขั้นตอนการทำงานจากพี่ๆในวางการที่เป็นเบื้องหลัง อีกทั้งยังเป็นการสร้าง connection ในแวดวงดนตรีอีกด้วย
หลังเรียนจบวางแผนการใช้ชีวิตไว้อย่างไร
วางแผนว่าจะทำงานในวงการเพลงต่อไป เพื่อเก็บประสบการณ์ให้มากๆ ทั้งการเป็นศิลปิน การทำงานเบื้องหลังในการทำเพลง และวางแผนว่าจะเรียนต่อในด้านดนตรีบำบัด (Music Therapy) หรือ การแสดงบำบัด (Drama Therapy) ซึ่งเป็นสาขาที่สนใจในตอนนี้ ส่วนการทำงานคิดว่าจะมุ่งมั่นในด้านเบื้องหลังให้มากขึ้น เพราะประสบการณ์เบื้องหน้าในการเป็นศิลปิน คิดว่าค่อนข้างเข้าใจและทำได้ในระดับนึงแล้ว แต่ว่าในด้านเบื้องหลังก็อยากลองทำให้มากขึ้น คิดว่าจะใช้ทฤษฎีและพื้นฐานด้านดนตรีที่เรียนไปมาปรับใช้ให้มาก และในอนาคต อยากผลักดันคนอื่นที่มีความสามารถในด้านดนตรีให้โดดเด่น อาจจะเปิดเป็นค่ายเพลงที่มีทั้งนักดนตรีนักร้องคนเบื้องหลังมาทำงานร่วมกัน
สิ่งที่คาดหวังจากคณะดนตรี มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ
สิ่งแรกเลยคือความรู้ด้านดนตรีที่ไม่เคยมีพื้นฐานหรือความรู้ด้านนี้มาก่อน โดยเฉพาะด้านทฤษฎีที่ยังต้องเรียนรู้อีกมาก การเขียนทำนอง การใช้โปรแกรมในการทำเพลงที่เรายังขาดความรู้ เพราะตอนนี้แต่งเนื้อเพลงได้แล้ว คาดหวังว่าเราจะต้องทำดนตรีให้ตัวเองได้และทำให้คนอื่นได้อีกด้วย ในอนาคตหากมีโอกาสอยากประกอบธุรกิจด้านดนตรี เช่น เปิดค่ายเพลง หรืออาจจะร่วมลงทุนในอุตสาหกรรมบันเทิง และใช้ความรู้ด้านการบริหารจัดการมาเป็นหลักปรับใช้ ซึ่งหากเรามีพื้นฐานทั้งด้านศิลปะดนตรีและด้านการบริหารธุรกิจมาคู่กันก็น่าจะทำให้เรามีประสิทธิภาพมากพอที่จะทำในสิ่งที่คิดไว้ได้